สารจากผู้อำนวยการ
Walking in a barn doesn’t make you a cow, Walking in a church doesn’t make you a Christian!!!
วันนี้ขอขึ้นต้นด้วยข้อความภาษาอังกฤษที่ บิลลี่ ซันเดย์ อดีตนักเบสบอลอาชีพ ชาวอเมริกันในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้ผันตัวมาเป็นผู้รับใช้พระเจ้าได้กล่าวไว้ ถ้าจะอธิบายแบบไทยๆก็คือ
“เดินไปเดินมาในโรงนา ก็ไม่ได้ทำให้เราจะกลายเป็นวัวไปได้ ฉันใดก็ฉันนั้น การเดินไปเดินมาในโบสถ์ ก็ไม่ได้ทำให้ใครสักคนจะกลายเป็นคริสเตียน”
การเกิดในครอบครัวคริสเตียน การไปโบสถ์สม่ำเสมอ การเติบโตท่ามกลางการนมัสการ ค่ายอนุชน คำสอน และกิจกรรมในโบสถ์เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระคริสต์ และการดำเนินชีวิตที่แสดงออกถึงความเชื่อที่แท้จริง ก็อาจยังเป็นแค่ “วัฒนธรรมคริสเตียน เท่านั้น ยังไม่ใช่ “ความเชื่อคริสเตียน” ที่แท้จริง
พระวจนะของพระเจ้าจึงเตือนเราว่า
“และท่านจงสอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน และจงพูดถึงถ้อยคำเหล่านั้นเมื่อท่านนั่งอยู่ในบ้าน
เดินอยู่ตามทาง นอนลงหรือลุกขึ้น” เฉลยธรรมบัญญัติ 6:7
การส่งต่อความเชื่อจากรุ่นสู่รุ่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่จำเป็นต้องลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อผ่านการสอน การหนุนใจ และที่สำคัญที่สุดคือการมีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง เป็นวิถีชีวิต เพื่อคนรุ่นใหม่จะรู้จักพระคริสต์ด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่สืบทอดวัฒนธรรม แต่สืบทอดความเชื่อวางใจ และชีวิตที่ถวายแด่พระองค์
เหมือนที่เปาโลกล่าวถึงทิโมธีว่า
“ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่านซึ่งเป็นความเชื่อที่โลอิสยาย
ของท่านมีเป็นคนแรก แล้วมีในยูนีสมารดาของท่าน และบัดนี้ข้าพเจ้าก็เชื่อว่ามีอยู่ในตัวท่านด้วย” 2 ทิโมธี 1:5
การส่งต่อความเชื่อ จากรุ่นสู่รุ่นจึงเป็นบทบาท หน้าที่ของพวกเราทุกๆคน ขอพระเจ้าทรงนำ และเสริมกำลังเราทุกคน ในการส่งต่อความเชื่อของเรา ไปยังคนรอบข้าง
YFC ยังร่วมมือกับเยาวชน และพี่น้องคริสเตียนทุกท่าน ในการส่งต่อความเชื่อให้กับคนรุ่นใหม่ทุกๆ วัน ขอพันธกิจ YFC จะอยู่ในคำอธิษฐาน และการสนับสนุนของท่านต่อไป ขอพระเจ้าอวยพระพรพี่น้องทุกท่านครับ
ร่วมรับใช้พระคริสต์
พัฒน์วิทย์ องค์เจริญ
(ผู้อำนวยการ Thailand YFC)
การประกาศพระกิตติคุณ เดือนกันยายน
พันธกิจของเราดำเนินได้ด้วยการสนับสนุนจากพี่น้องคริสเตียนไทย